มอบแล้วรายแรก 53 ล้านบาท “กิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี” ให้กับมูลนิธิ ชุมชน-ท่าเรือร่วมใจ
ประเดิมรายแรก กิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี มอบเงินสบทบ กองทุนหลักประกันความเสียหาย เพื่อเป็นเงินสำรอง จ่ายในการเยียวยา ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะ ที่ 3
วันนี้ (7 พ.ค.) เรือเอกกานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิชุมชน-ท่าเรือร่วมใจ รับมอบเงิน จาก กิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี Mr. Sun Yanmao ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 งานส่วนที่ 1 งานก่อสร้างทางทะเล เพื่อสบทบเข้ากองทุน กองทุนเยียวยาความเสียหายจากผลกระทบของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังฯ ระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 เพื่อเป็นเงินสำรอง จ่ายในการเยียวยา ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ พร้อมด้วย นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย นางนวรจ ใจดี ผู้อำนวยการกองการเงิน และนางพรทิพา ทวีนุช ผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป เข้าร่วมรับมอบเงิน ณ ห้องประชุม 3 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง
เรือเอกกานต์ เมนรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า มูลนิธิชุมชน – ท่าเรือร่วมใจ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนรอบ ทลฉ. จำนวน 39 ชุมชน อีกทั้งเป็นไปตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม (EHIA) โดยให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการเมื่อเกิดผลกระทบจากโครงการฯ ทั้งนี้ ได้มีการ จะจัดตั้งกองทุน รวม 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบัง และกองทุนเยียวยาความเสียหายจากผลกระทบของโครงการพัฒนาท่าเรือระยะที่ 1-3
โดยในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายดี ที่ กิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี ได้มอบเงินสบทบ เข้ากองทุนฯ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการ EHIA ก่อนที่ผู้รับเหมาก่อสร้างงานจ้างเหมาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เข้าดำเนินการก่อสร้าง จะต้องนำเงินเข้ากองทุนเพื่อเป็นหลักประกัน เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากกระทบจากการก่อสร้างโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3 (ส่วนที่ 1) งานก่อสร้างทางทะเล เป็นผู้สมทบเงินเข้ากองทุนร้อยละ 0.25 ของมูลค่าก่อสร้างโครงการฯ ซึ่งกองทุนฯดังกล่าว จะสามารถอำนวยความสะดวกแก่ชาวชุมชนโดยรอบท่าเรือเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถมาขอรับการเยียวยาโดยตรงที่มูลนิธิฯ ได้ทันที เป็นการขอรับความช่วยเหลือที่สะดวกรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
รายงานข่าว/ฐนกร เปรมสมบัติ