ทสม. ระยอง สานพลัง ภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน วัด สื่อมวลชน ชุมชน ปลูกป่าต้นตะเคียน พื้นที่ 6 ไร่ ณ วัดตะเคียนทอง ร่วมสนับสนุนโดย โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ ที่ 3
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย 2565 เนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมโลก” เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน(ทสม.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง สานพลัง หน่วยงานรัฐ จังหวัดระยอง องค์กรท้องถิ่น เทศบาลตำบลแกลง อสม.ต.แกลง อาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก ต.แกลง สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง จิตอาสาตำบล แกลง บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) สื่อมวลชน ซูมระยอง และ ศูนย์ข่าว ข่าวไท จ.ระยอง ฯลฯ จัดกิจกรรมปลูกป่า “ต้นตะเคียน “ กว่า 400 ต้น ในพื้นที่ 6 ไร่ ณ วัดตะเคียนทอง อ.แกลง จ.ระยอง มีคณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
โครงการนี้ฯ ได้รับการสนับสนุน จาก โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) จำกัด สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร) กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 1 (PMSC) บริษัท บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเว๊ล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (ITD)
กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากพระเดชพระคุณ พระครูบูรพาวัชราภรณ์( พระอาจารย์น้ำเพชร) เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทองเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นาย กำธร เวหน นายอำเภอเมืองระยองเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมีนายครรชิต ศรีนพวรรณ ผู้กล่าวรายงาน และ ผู้อำนวยการจัดงานนำโดย นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธาน ทสม. จ.ระยอง กิจกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้ในพื้นที่ จ.ระยอง และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของป่าไม้ ต้นไม้ ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน จึงร่วมกันรณรงค์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกด้วย ในพิธี มีการกล่าวถึงความสำคัญของวันสิ่งแวดล้อมโลก และ ความสำคัญของโครงการปลูกป่าต้นตะเคียน และ ความสำคัญของความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การทำพิธีกรรมทางศาสนาและถวายต้นไม้แก่พระสงฆ์ จากนั้นร่วมกันปลูกต้นตะเคียนร่วมกัน บรรยากาศเต็มเปี่ยมด้วยความยินดีและความรักความสามัคคี ทำให้โครงการบรรลุผลสำเร็จได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือของทุกหน่วยงานร่วมกัน เป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ยิ่งต่อชุมชนและเมืองระยองต่อไป