NFCT เปิดคลังน้ำมัน นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมุ่งกระจายสู่เขตเศรษฐกิจ EEC มูลค่า 2.57 พัน ลบ.

บริษัท เอ็นเอฟซีที จำกัด (NFCT) บริษัทย่อยของ บมจ.เอ็นเอฟซี (NFC) ประกาศฤกษ์ดีพร้อมเปิดให้บริการคลังน้ำมันเชื้อเพลิง และท่อส่งน้ำมันโครงการ “NFCT Fuel Tank Farm Project ” มูลค่า 2,570 ล้านบาท ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.นี้  พร้อมมุ่งกระจายสู่เขตเศรษฐกิจ EEC ช่วยสร้างความแข็งแกร่งเครือข่ายจัดส่งน้ำมันระดับภูมิภาคอาเซียน  และเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของไทย รวมทั้งสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบายของภาครัฐ

สำหรับโครงการคลังน้ำมันและท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง (NFCT Fuel Tank Farm Project) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการ กำกับดูแลของกนอ.โดยนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นพื้นที่หนึ่งในแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการลงทุนโดยเฉพาะในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์  ทั้งบนบก ได้แก่ ระบบถนน ระบบราง ในน้ำ

ได้แก่ การขนส่งทางเรือ และทางอากาศ โดยเครื่องบิน โดยมีเป้าหมายในการเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี แหลมฉบัง พัทยา สัตหีบ อู่ตะเภา มาบตาพุด และระยองเข้าด้วยกัน ตลอดจนเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาค ด้วย ทำให้เชื่อมั่นว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และเปิดโอกาสให้มีการค้าน้ำมันในระดับภูมิภาค และเกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคต่อไปในอนาคต  ทั้งยังจะช่วยส่งเสริมนโยบายต่างๆของภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็นเอฟซี  จำกัด (มหาชน) หรือ NFC 

ทั้งนี้โครงการฯ จะประกอบไปด้วย คลังน้ำมัน และถังจัดเก็บน้ำมันแก๊สโซลีนพื้นฐาน จำนวน 6 ถัง ขนาดความจุรวม 90 ล้านลิตร  เพื่อใช้รองรับน้ำมันที่ขนถ่ายมาจากเรือขนน้ำมันนำเข้าขนาดกลาง (medium range) ก่อนที่จะขนสูบผ่าน 2 ทาง คือ ผ่านท่อขนส่งน้ำมันเข้าสู่ระบบท่อส่งน้ำมันของผู้ประกอบการขนส่งน้ำมันทางท่อ และเข้าสู่เรือขนส่งน้ำมันขนาด 2,000-3,000 DWT โดยมูลค่ารวมของโครงการฯ อยู่ที่ประมาณ 2,570 ล้านบาท หรือ 83 ล้านเหรียญสหรัฐ

“โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงและความยั่งยืนด้านพลังงาน เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับภูมิภาค รองรับความต้องการเชื้อเพลิงของภาคการขนส่งและคมนาคม และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบายด้านต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ของประเทศได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายน้ำมันของประเทศ และตอบสนองนโยบายภาครัฐต่อไปในอนาคต   ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง”

“เอ็นเอฟซีที มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในโครงการคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง และบริการระบบขนส่งน้ำมันทางท่อ โดยโครงการดังกล่าว ถือเป็นการลงทุนเพื่อขยายขอบเขตธุรกิจการให้บริการด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าเหลว ของกลุ่มบริษัทเอ็นเอฟซี เพื่อสนับสนุนรายได้ให้แก่ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงของการลงทุน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าว จะช่วยเสริมศักยภาพและส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตมากยิ่งขึ้น  ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเข้ามาในไตรมาส 4/2565   ”

รายงายข่าว/ฐนกร เปรมสมบัติ